การคลัง
การคลัง
1. รายรับของรัฐบาล
1) รายได้ของรัฐ ได้แก่ ภาษีอากร, การขายสิ่งของและบริการ, รัฐพาณิชย์ และรายได้อื่นๆ
« ภาษีอากร มี 4 ประเภท ได้แก่
- ภาษีทางตรง : ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา-นิติบุคคล, ภาษีดอกเบี้ย, ภาษีที่ดิน
- ภาษีทางอ้อม : ภาษีการค้า, ภาษีมูลค่าเพิ่ม, อากรแสตมป์, ภาษีสรรพสามิต
- ภาษีสินค้าเข้าออก : ภาษีนำเข้าและส่งออก (ภาษีศุลกากร)
- ภาษีลักษณะอนุญาต : ใบอนุญาตต่างๆ เช่น ใบอนุญาตค้าอาวุธ
« การขายสิ่งของและบริการ เช่น ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ, ขายอสังหาริมทรัพย์, ขายหลักทรัพย์
« รัฐพาณิชย์ คือ ผลกำไรจากธุรกิจที่รัฐเป็นเจ้าของ เช่น โรงงานยาสูบ, สลากกินแบ่ง, ไฟฟ้า, ประปา
« รายได้อื่นๆ เช่น ค่าแสตมป์, ฤชาและค่าปรับ
2) เงินคงคลัง คือ รายได้ของรัฐที่เหลือจากรายจ่าย และนำส่งธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้เก็บรักษาไว้ตามพ.ร.บ.เงินคงคลังรัฐบาลสามารถเบิกเงินคงคลังมาใช้ช่วยปัญหาขาดดุลงบประมาณได้ แต่ต้องเอามาคืนภายใน 1 ปีงบประมาณ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะมีเงินสำรองไว้ในกรณีฉุกเฉินที่จำเป็นต้องใช้เงินจริงๆ
3) เงินกู้ หมายถึง การกู้เงินของรัฐบาลเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ (เฉพาะปีที่จัดทำงบประมาณแบบขาดดุล) โดยการกู้นั้นอาจใช้วิธีการออกตั๋วเงินคลัง, พันธบัตรรัฐบาล
2. รายจ่ายของรัฐบาล
ได้แก่ รายจ่ายด้านต่างๆ เช่น ด้านการศึกษา, ด้านเศรษฐกิจ, สวัสดิการสังคม, การเกษตร, สาธารณสุข, ความมั่นคงของประเทศ, การรักษาความสงบภายใน, การบริการทั่วไป, ชำระหนี้เงินกู้
3. งบประมาณแผ่นดิน
แผนเกี่ยวกับการใช้จ่ายของรัฐบาลและการจัดหารายรับให้เพียงพอกับการใช้จ่าย ในระยะเวลา 1 ปี โดยรัฐบาลต้องจัดทำเป็น พ.ร.บ. เรียกว่า “งบประมาณแผ่นดินประจำปี”
« เริ่มต้นวันที่ 1 ตุลาคม และสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน ของปีถัดไป
เช่น งบประมาณประจำปี 2557 = วันที่ 1 ต.ค. 2556 – 30 ก.ย. 2557
งบประมาณประจำปี 2558 = วันที่ 1 ต.ค. 2557 – 30 ก.ย. 2558
« สำนักงบประมาณเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบจัดทำงบประมาณแผ่นดิน
- งบประมาณแผ่นดินเกินดุล >> รายรับ > รายจ่าย >> เงินคงคลังเพิ่ม >> ใช้ตอนเงินเฟ้อ
- งบประมาณแผ่นดินขาดดุล >> รายรับ < รายจ่าย >> หนี้สาธารณะเพิ่ม >> ใช้ตอนเงินฝืด
- งบประมาณแผ่นดินสมดุล >> รายรับ = รายจ่าย >> ไม่ต้องกู้หนี้ >> เกิดขึ้นได้ยาก
4. หนี้สาธารณะ หรือ หนี้ของรัฐบาล (Public Debt) :
เกิดจากรัฐบาลมีรายรับน้อยกว่ารายจ่าย จึงต้องกู้ยืมเงิน โดยการกู้ยืมมีได้หลายช่องทาง เช่น สถาบันการเงินภายในประเทศ (ธนาคารพาณิชย์/ธนาคารกลาง), สถาบันการเงินต่างประเทศ, รัฐบาลต่างประเทศ หรือ องค์กรทางการเงินระหว่างประเทศ
นอกจากนั้นยังสามารถออกตราสารทางการเงินเพื่อระดมทุนจากนักลงทุนสถาบันและประชาชนทั่วไป ดังนี้
1) ตราสารการเงินระยะสั้น (กู้ไม่เกิน 1 ปี) ได้แก่ ตั๋วเงินคลัง
2) ตราสารการเงินระยะยาว (กู้เกิน 1 ปี) ได้แก่ พันธบัตรรัฐบาล, ตั๋วสัญญาใช้เงิน